จิงโจ้ฟ้า ปูนกาวซีเมนต์ติดกระเบื้อง ประหยัดคุ้มค่ากว่าการปูกระเบื้องแบบเดิมๆ ทำให้การปูกระเบื้องเป็นเรื่องง่าย สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อผสมกับน้ำสะอาดตามอัตราส่วนที่กำหนด ลดขั้นตอนการทำงานโดยไม่ต้องนำกระเบื้องแช่น้ำ เหมาะสำหรับใช้กับงานติดกระเบื้องดูดซึมน้ำ เช่น กระเบื้องดินเผา และเซรามิค กระเบื้องดูดซึมน้ำต่ำ เช่น โมเสก พอร์ซเลน และแกรนิตโต้ ขนาดใหญ่สูงสุด 60 × 60 ซม. ใช้ได้ทั้งพื้นและผนัง ใช้ได้ดีกับงานภายในอาคาร มีคุณสมบัติพิเศษในการยึดติดแน่น เนื้อปูนเหนียว ปูนเซทตัวในเวลาที่พอดี มีเวลาในการจัดแต่งกระเบื้องได้
การเตรียมพื้นผิว
- เตรียมกระเบื้องที่สะอาด และแห้งก่อนปูกระเบื้อง (ห้ามนำกระเบื้องแช่น้ำ)
- พื้นผิวผนังฉาบหรือปูนที่ปรับระดับใหม่ ต้องใช้เวลาการบ่มตามมาตรฐาน ไม่ต่ำกว่า 7วัน
- พื้นผิวที่จะทำการปูกระเบื้องต้องเรียบได้ระดับ ผิวฉาบ-ผิวปรับระดับต้องแข็งแรงไม่ร่อน
- กรณีพื้นที่ส่วนเปียก เช่นห้องน้ำและห้องครัวควรทำระบบกันซึมก่อนทำการปูกระเบื้องเพื่อลดปัญหาน้ำรั่วซึม และความชื้นสะสมในผนัง
- กรณีพื้นผิวเก่าที่ทาสีแล้ว ต้องทำการลอกสีออกก่อน
- ก่อนการปูกระเบื้อง ต้องทำการตีแนวหาเส้นแบ่งระยะ หาเศษกระเบื้อง เพื่อให้ตรงตามแบบ
- พื้นผิวที่มีรูพรุนมาก หรือการซึมซับน้ำสูง ต้องทำการพรมน้ำพอหมาดก่อนการปูกระเบื้อง
การผสมปูน
กาวซีเมนต์ติดกระเบื้อง 20 กิโลกรัม (1 ถุง) ต่อน้ำ 5.2 ลิตร หรือกาวซีเมนต์ 2.7 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วนโดยปริมาตร กวนปูนผสมให้ เป็นเนื้อเดียวกันไม่เป็นเม็ด โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท
- การกวนด้วยสว่านไฟฟ้าปั่นปูน ควรกวนนานไม่ต่ำกว่า 3 นาที โดยดูว่าเป็นเนื้อเดียวกันไม่เป็นเม็ดแล้วทิ้งไว้ ประมาณ 5 นาที ให้สารเคมีแตกตัวกวนซ้ำอีกครั้ง แล้วใช้งานได้ทันที
- การกวนด้วยมือ ควรใช้เกรียงใบโพธิ์กวนนานๆโดยดูว่าไม่เป็นเม็ดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ให้สารเคมีแตกตัวกวนซ้ำอีกครั้ง แล้วใช้งานได้ทันที
ขั้นตอนการทำงาน
- ปาดกาวซีเมนต์ด้วยเกรียงร่องหวีตามขนาด ( ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเบื้อง ) เป็นทางยาวบนพื้นผิวงาน
ประมาณ 1-2 ตร.ม. โดยปาดกาวซีเมนต์ให้ทั่ว ตามความหนาของร่องหวีที่ใช้ เพื่อเป็นการควบคุมปริมาณ
กาวซีเมนต์ให้สม่ำเสมอโดยสังเกตความข้นเหลวดังนี้
ถ้าปูนเหลวเกินไป เส้นร่องหวีจะล้มไม่อยู่ตัว แก้โดยการเติมปูนผสมอีกครั้ง
ถ้าปูนข้นเกินไป เส้นร่องหวีเกรียงจะขาด แก้ด้วยการเติมน้ำผสมอีกครั้ง - ในกรณีปูกระเบื้องขนาดใหญ่ 60×60 ซม. แต่ไม่สามารถจัดหาเกรียงร่องหวีขนาด 12 มม. จึงมีความจำเป็นต้องใช้ เกรียงร่องหวีขนาด 6 มม. (ที่มีขายทั่วไปตามร้านวัสดุ) ควรปาดกาวซีเมนต์ด้วยเกรียงร่องหวีเพิ่ม ลงบนด้านหลังกระเบื้องให้ทั่ว เพื่อให้หลังกระเบื้องมีกาวซีเมนต์เต็มทั่วถึง โดยไม่มีช่องว่างอากาศภายในใต้กระเบื้อง เพราะช่องว่างอากาศส่งผลทำให้ปูนยึดเกาะน้อย กระเบื้องเปราะ และน้ำสามารถไหลซึมเข้าไปได้
- เมื่อทำการปาดปูนด้วยเกรียงร่องหวีเป็นที่เรียบร้อย ระยะเวลาประมาณ 5 – 10 นาที เป็นระยะเวลาใช้งานหลังปาดปูน ที่เหมาะสมได้ค่าการยึดเกาะดี
- จากนั้นปูกระเบื้องทับบนกาวซีเมนต์ที่ทำการปาดไว้ กดให้แน่น และใช้ค้อนยางเคาะบนกระเบื้องให้ทั่ว เพื่อให้ร่องของกาวซีเมนต์หลังแผ่นกระเบื้อง กดทับประสานกันอย่างทั่วถึง ควรเว้นร่องเพื่อการยาแนวอย่างน้อย 2 มม. ( ในกรณีกาวซีเมนต์ล้นขึ้นมาที่ร่องยาแนว ให้เช็ดออกเพื่อรักษาช่องของร่องยาแนวไว้ )
- หากต้องการจัดแนวกระเบื้อง สามารถปรับตกแต่งกระเบื้องแต่ละแผ่นภายในเวลาประมาณ 10 – 15 นาที ก่อนกาวซีเมนต์จะแห้ง
- หลังการปูกระเบื้องเสร็จ ก่อนการยาแนวรอให้กาวซีเมนต์แห้งสนิทประมาณ 24 ชั่วโมง ในกรณีปูกระเบื้องพื้นก่อนเปิดใช้งานควรบ่มปูนไว้อย่างน้อย ประมาณ 48 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรปาดกาวซีเมนต์หลังกระเบื้องเป็นจุดๆ ( ปูซาลาเปา ) ทำให้กระเบื้องเปราะแตกง่าย
- ควรหลีกเลี่ยงการปูกระเบื้องกลางแจ้ง ที่มีแดดจัด อุณหภูมิที่พื้นผิวสูง ส่งผลให้ค่ายึดเกาะต่ำ
- ผลิตภัณฑ์อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา ฯลฯ
- ในกรณีเข้าตา ให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์
- ถ้าถูกหรือสัมผัสกับผิวหน้าให้ใช้น้ำและสบู่ล้างทำความสะอาด
การเก็บรักษา
- ควรกองเก็บในที่ร่ม ไม่เปียกชื้น อายุการกองเก็บ 8 เดือน
คำแนะนำ
- ไม่ต้องนำกระเบื้องแช่น้ำ
- แนะนำให้ใช้ภายในอาคาร
- ควรทิ้งไว้นาน 24 ชั่วโมงก่อนยาแนว
- ควรเก็บรักษาไว้ในที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีความชื้น