• Home
  • Find Stores

Enter your Keyword

News

ควิกโคท ปรับพอร์ทการขาย เจาะลึกกลุ่มสินค้า High Margin รุกตลาดเข้มข้น

คุณอัครภัทร ทองน้ำตะโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ให้สัมภาษณ์ไว้เกี่ยวกับเรื่องการเติบโตและอนาคตของตลาดอสังหา

“ควิก โคท โปรดักส์” ปรับพอร์ทการขาย เจาะลึกกลุ่มสินค้า High Margin รุกตลาดเข้มข้น

“ควิก โคท โปรดักส์” ชี้อุตสาหกรรมอสังหาฯ มีสัญญาณลดลงจากประมาณการ กำลังซื้อวัสดุก่อสร้างทรงตัวแม้ว่าช่วงไตรมาส3-4 จะได้รับผลกระทบจากการผ่อนปรนสินเชื่อที่เข้มงวดมากกว่าเดิม โดยปีนี้ปรับลดเป้ารายได้ลง 15% ส่วนปีหน้าเพิ่ม 10% ล่าสุดปรับพอร์ทการขายเจาะแนวลึกกลุ่มสินค้า High Margin มากขึ้น นายอัครภัทร ทองน้ำตะโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ควิก โคท โปรดักส์ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แม้ว่าธุรกิจก่อสร้างกลุ่มอสังหาฯคาดว่าจะหดตัวมีอัตราเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ในช่วงปลายไตรมาสสองที่ผ่านมา ส่งผลให้การขยายตัวในภาพรวมของกลุ่มไม่เกิน 3% ซึ่งเป็นผลจากการผ่อนปรนการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง สำหรับในช่วงปลายปีนี้เห็นว่าอุตสาหกรรมอสังหาฯ เริ่มมีสัญญาณลดลงจากประมาณการ กำลังซื้อวัสดุก่อสร้างทรงตัวโดยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของภาครัฐยังเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

“กําลังซื้อที่ยังคงมีปัญหา จะเป็นปัจจัยที่สร้างสต็อครอบใหม่ เพราะ developer ลงทุนไปแล้ว รอไม่ได้ แต่ปล่อยไม่ออก กระทบการลงทุนในโครงการใหม่ ส่วนฝั่งการเมือง การเลือกตั้งค่อนข้างชัดเจนว่ามีแน่ แต่คาดเดาผลยาก โดยเฉพาะผลหลังการเลือกตั้งซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งของบรรยากาศการลงทุนจากปลายปีนี้ถึงปลายปีหน้า” นายอัครภัทรกล่าวอีกว่าส่วนผลประกอบการรายได้ในช่วงปีนี้จะมีการปรับเป้ารายได้หรือไม่ อย่างไรบ้างนั้น คาดว่าปีนี้จะปรับลดลงราวๆ15% ส่วนปี 2562 ตั้งเป้าโต 10% ตามเดิม

“ช่วง 6 เดือนแรก เราเติบโตราวๆ4% สูงกว่าตลาด ส่วนครึ่งหลังยอดขายตกเป้า จากกําลังการผลิตที่หายไป แต่เริ่มช่วงชิงพื้นที่กลับคืนมาได้ตามลําดับ หลังจากที่มีการปรับแผนการผลิตที่พึ่งพาตัวเองมากขึ้น ส่วนกําไรยังอยู่ในระดับเดิม จากการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร การเปลี่ยนจาก OEM มาผลิตเอง การปรับพอร์ทการขายที่เจาะลงแนวลึกในกลุ่มสินค้า High Margin มากขึ้นรวมทั้งปีคาดว่ายอดขายอยูในระดับ 600-700 ล้านบาท ดังนั้นถึงสิ้นปีนี้ยังคาดการณ์ยอดขายต่ำกว่าเป้าหมายที่กําหนด 25-30% สัดส่วน margin สูงขึ้นจากสินค้ากลุ่มรอง ผลกําไรยังคงอยูในระดับเดิม และปรับเป้าปฏิบัติงานลดลงไปแล้ว 15-20%” ทั้งนี้แบคล็อคล่าสุดปัจจุบันปัญหาเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือแค่เฉพาะตัวปูนฉาบอิฐมวลเบาที่เป็นที่นิยมของตลาด โดยมียอดค้างไม่เกิน 14 วันโดยตามปกติควิกโคทฯขายผ่านระบบตัวแทน ที่เราให้ความสําคัญสูงสุดมาโดยตลอด การเข้าขายตรงให้กับโครงการจะเป็นส่วนสําคัญลําดับถัดมา จึงยังไม่มีการเซ็นสัญญาในโครงการใหญ่ แต่ในเรื่องของการสั่งตัว product เข้า approved ในโครงการของ Developer รายใหญ่ เราเข้าสู้ทุกที่อยู่แล้ว

“ต้องขอขอบคุณDeveloper ทุกรายที่ให้ความไว้วางใจให้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ใหม่ ๆ ตามเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนไป สำหรับการเตรียมความพร้อมลุยงานปี 2562 นั้นเรื่องสําคัญที่สุดคือ เราโชคดีที่ได้ปรับปรุงเรื่องระบบงานภายในและฐานข้อมูลเชิงบริหารที่มีประสิทธิภาพมากมาก่อนหน้าจะเผชิญปัญหา อันนี้เป็นปัจจัยหลักให้เราผ่านวิกฤติมาได้ซึ่งจะพัฒนาเรื่องนี้กันต่อไป” นายอัครภัทรกล่าวอีกว่าได้ให้น้ำหนักกับการสร้างนวัตกรรมในตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น จากที่ลดความเข้มข้นไปในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รวมถึงเริ่มแผนในการเข้าสู่มาตรฐาน ISO เต็มระบบโดยเริ่มโครงการตั้งแต่ปลาย Q3 ของปีนี้ โดยนโยบายในการพัฒนายังคงอยู่บนพันธกิจของบริษัทฯภายใต้หลักการทรงงานของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เรายึดถือปฏิบัติสืบมาโดยยังให้ความสําคัญกับการพัฒนาคน เพื่อสร้างแรงระเบิดจากภายใน อยากให้พนักงานมีส่วนร่วม ในการสร้างความเปลี่ยนแปลง จึงต้องเตรียมคนให้พร้อมในการก้าวไปพร้อมๆกัน ลำดับถัดไปคือเรื่องการขยายกําลังการผลิต วิกฤติจาก OEM ในปีนี้ ผลักดันให้ต้องเร่งการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ทําให้แผนพัฒนาและขยายโรงงานเริ่ม Kick-off เร็วขึ้นกว่าเดิม คงต้องขอบคุณสถานการณ์ที่ผ่านมาที่บีบให้ต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอด สำหรับในส่วนของการขายนั้นยังคงมุ่งขยายช่องทางทั้งสองแกน ทั้งแนวตั้ง และแนวราบ อันนี้เป็นพื้นฐานของการขายโดยมีผลิตภัณฑใหม่ ๆ อย่าง MyLoft ปูนลอฟท์ที่โดดเด่นสําหรับลูกค้า Home Used และ ปูนก่อ /กาวอเนกประสงค์ GP 100 ที่เริ่มได้รับการยอมรับจากตลาดกลุ่มก่อสร้าง เป็นหัวหอกในปีนี้และจะมีตามออกมาอีก 3-4 item ในปีหน้า โดยจะเริ่มเปิดช่องทาง MT และ MLCV ที่เป็นรูปธรรมอย่างจริงจังมากขึ้น

“แผนการตลาดแน่นอนว่าต้องมีการปรับให้เข้มข้นขึ้น ช่วงปีที่ผ่านมาเราสะสมกระสุนไว้รอมาใช้ในปีนี้ในเวลาที่กําลังการผลิตเราเพียงพอและพร้อมเข้าแข่งขันเชิงรุกมากขึ้น ส่วนสําคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งคือตัวแทนจําหน่าย ที่ในปี 2562 ขอเรียกว่าปีแห่งการขอบคุณลูกค้าที่เป็นเสมือนเพื่อน เสมือนครอบครัว เป็นช่วงเวลาที่เราจะกลับไปบอกลูกค้าทุกๆคนว่าเราขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน ขอบคุณที่ยังเชื่อมั่นและไว้ใจให้เราเป็นส่วนหนึ่งที่เคียงคู่ไปกับกิจการเสมอมา”

Related Articles