• หน้าแรก
  • ค้นหาร้านค้า

กรุณาใส่คำค้นหา

ข่าวสาร

เปิดวิสัยทัศน์แม่ทัพหญิงหนึ่งเดียวแห่งวงการปูน ภายใต้แบรนด์ “ลูกดิ่ง – จิงโจ้” กับแนวคิดขับเคลื่อนองค์กรด้วยใจ

เปิดวิสัยทัศน์แม่ทัพหญิงหนึ่งเดียวแห่งวงการปูน กับความท้าทายในการนำพาองค์กรควิกโคท
สู่ผู้นำนวัตกรรมปูนก่อ-ฉาบอิฐมวลเบารายแรกของไทย ด้วยแนวคิดขับเคลื่อนองค์กรด้วยใจ สร้างความเชื่อมั่นคู่ค้า-ลูกค้า ส่งเสริมพนักงานพร้อมเติบโตไปด้วยกัน

นางสาวประภารัตน์ สิริวัฒกานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ควิกโคท โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตและ
จัดจำหน่ายปูนคุณภาพสำหรับมืออาชีพตัวจริง ภายใต้แบรนด์ “ลูกดิ่ง” และ “จิงโจ้” เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจว่า บริษัทเริ่มต้นจากการได้รับโจทย์ของลูกค้าที่ต้องการใช้อิฐมวลเบาแทนการใช้อิฐทั่วไปในการก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์  จึงเป็นที่มาของการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ปูนฉาบอิฐมวลเบารายแรกของไทย ภายใต้ชื่อ “ปูนลูกดิ่ง” หรือ  “ดิ่งแดง” และปูนก่ออิฐมวลเบาสำเร็จรูปภายใต้ชื่อ “ปูนจิงโจ้” หรือ  “โจ้ม่วง” ซึ่งเป็นที่ยอมรับและรู้จักในแวดวงช่างก่อสร้างมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับวิสัยทัศน์ที่ยึดมั่นในการทำธุรกิจมาตลอด 28 ปี คือ การให้ความสำคัญกับ “คุณภาพสินค้า” “คุณภาพการบริการ” และ “คุณธรรม” โดยคุณภาพของปูน เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบเกรดคุณภาพ ผ่านกระบวนการผลิตมาตรฐานสากลที่ใช้ระบบหุ่นยนต์ 100 % เพื่อรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่เคร่งครัด ก่อนนำส่งออกจากโรงงาน  

คุณภาพในงานบริการ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน  บริษัทใส่ใจในคุณภาพการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย การขนส่งที่รวดเร็ว เที่ยงตรง และยืดหยุ่น เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าให้มากที่สุด  เน้นการดูแลคู่ค้าและลูกค้าทุกคนเหมือนคนในครอบครัว นอกจากนี้ยังมีทีมเทคนิคบริการมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาร่วมกับช่างและผู้พัฒนาโครงการตามไซด์งานก่อสร้างอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว บริษัทของเรายึดมั่นในคุณธรรม โดยใช้หลักธรรมาภิบาล คุณธรรม ความซื่อสัตย์ และความพอเพียง เป็นหลักสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เน้นความโปร่งใสและคำนึงถึงผลประทบต่อทุกฝ่าย ทั้งกับพนักงาน คู่ค้าและลูกค้าทุกคน เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

อีกสิ่งหนึ่ง ที่นับเป็นความท้าทายนอกจากการนำพาธุรกิจให้เติบโตนั่นคือ การเป็นผู้นำหญิงหนึ่งเดียวในวงการปูน  เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า วงการก่อสร้าง ธุรกิจของหนัก อิฐ หิน ดิน ทราย รวมไปถึงปูน ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจที่บริหารงานโดยผู้ชาย แต่จากการเติบโตของบริษัทสามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นถึงความสำเร็จของการบริหารธุรกิจในฐานะผู้บริหารที่เป็นผู้หญิงได้อย่างชัดเจน

 “แม้เราจะเป็นผู้นำที่เป็นผู้หญิงในวงการปูน แต่มองว่าในความเป็นผู้หญิงมีความได้เปรียบ ซึ่งในการบริหารงานได้นำจุดเด่นในความเป็นผู้หญิงออกมาใช้นั่นคือ ความใส่ใจในทุกรายละเอียด ทุกขั้นตอน  ตั้งแต่ต้นน้ำคือโรงงานผลิตไปจนถึงปลายน้ำ โดยจะมีการเดินตรวจโรงงานด้วยตนเอง นอกจากได้เช็คปริมาณของเข้าของออกในแต่ละวันแล้ว ยังได้ทักทายลูกน้องที่ประจำในแต่ละจุด เรียกได้ว่ารู้จักกับลูกน้องทุกคน ทุกแผนก ทุกระดับ ทั้งที่สำนักงานและโรงงาน  และในวันเกิดพนักงานจะได้รับของขวัญที่เราเลือกและส่งมอบกับมือเองทุกชิ้น เป็นการให้ใจกับพวกเขา สิ่งที่ได้รับกลับมาคือเราเป็นผู้บริหารที่ลูกน้องสามารถเข้าถึงได้ทุกคน และหากเกิดปัญหาหน้างานขึ้น ลูกน้องสามารถเข้าถึงเราได้ทันที” นางสาวประภารัตน์ กล่าว

นอกจากพนักงานจะมี KPI เพื่อประเมินผลงานแล้ว สำหรับผู้บริหารยังมี KPI ด้วยเช่นกัน ซึ่ง KPI นั้นคือ การส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีความสุขในการทำงาน เนื่องจากเชื่อมั่นว่ายิ่งพนักงานมีความสุขในการทำงาน กระตือรือร้น รักองค์กรมากเท่าไหร่ พนักงานจะยิ่งใส่กำลังกายกำลังใจลงไปในเนื้องานและขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าไปได้ไกลมากขึ้นเท่านั้น

สำหรับก้าวต่อไปในอนาคตของควิกโคท จะยังคงเดินหน้าธุรกิจด้วยการสร้างการเติบโตไปด้วยกันของพนักงาน คู่ค้าและลูกค้า โดยมุ่งมั่นและพัฒนาผลิตสินค้าปูนนวัตกรรมใหม่ พร้อมขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ  เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในตลาดซึ่งยังคงมีการแข่งขันสูงและมีผู้เล่นรายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ความได้เปรียบจะอยู่กับรายใหญ่ที่มีทุนสูงและมีอำนาจในตลาดมากกว่า แต่นับเป็นความท้าทายของผู้เล่นระดับกลางและระดับเล็กที่ต้องอยู่ให้รอดด้วยการพัฒนาองค์กรให้ทันกับกระแสเทคโนโลยีการก่อสร้างใหม่ มุ่งตอบสนองตามความต้องการของช่าง ผู้รับเหมายุคใหม่ รวมไปถึงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยุค 4.0 

ปัจจุบัน ปูนลูกดิ่งและปูนจิงโจ้ นับเป็นแบรนด์ปูนก่อ-ฉาบอิฐมวลเบาที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งในตลาดกรุงเทพและปริมณฑล ในอนาคตมีแผนวางจำหน่ายตามร้านอุปกรณ์ก่อสร้างทั่วประเทศ ด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 800,000 ตันต่อปี

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง